เสือดำทุ่งใหญ่ มีคู่ วิ่งนำทางเจ้าหน้าที่ไปที่เกิดเหตุ!!!!

            จากกรณีเจ้าหน้าที่ เข้าจับ เปรมชัย กรรณสูต ประธานอิตาเลียนไทย ยักษ์ใหญ่ก่อสร้าง พร้อมพวกอีก 3 คน ตั้งแคมป์กลางป่าทุ่งใหญ่ ผงะซากเสือดำ เก้ง ไก่ฟ้า ปืนไรเฟิลติดกล้อง ลูกซอง กระสุนเพียบ สอบสวนปฏิเสธ ไม่ได้ล่าสัตว์ ปืนก็ไม่ใช่ของตนเอง ดำเนินคดี 9 ข้อหา ส่งฝากขังศาล ก่อนได้ประกันตัว กรมอุทยานฯ แถลงชี้แจงวุ่น โต้เป็นแขกวีไอพี ยอมรับเปรมชัยขอเข้าพื้นที่ศึกษาธรรมชาติ แต่กลับไปตั้งแคมป์ในจุดหวงห้าม

ล่าสุด เมื่อลงไปยังพื้นที่เกิดเหตุ คุณอนุวงค์ ศรีจันทร์ พนักงานราชการ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก ซึ่งเป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ชุดเข้าจับกุม เผยว่า ในช่วงค่ำของวันอาทิตย์ที่ 4 กุมภาพันธ์ หลังจากที่ได้รับแจ้งว่ามีผู้กระทำความผิด จึงขับรถเข้าไปตรวจสอบ ระหว่างทางขณะใกล้ถึงห้วยปะชิ พบเสือดำตัวหนึ่งวิ่งมานำหน้ารถเจ้าหน้าที่ ทั้งที่ไม่เคยเป็นมาก่อน และเมื่อถึงจุดตั้งแคมป์ เสือดำตัวนั้นก็วิ่งเข้าป่าหายไป ก่อนจะตรวจพบซากเสือดำถูกยิงตาย ซึ่งตนสันนิษฐานว่า เสือดำที่มาวิ่งปรากฏตัวนั้น น่าจะเป็นคู่ของเสือดำตัวที่ตาย เพราะหลายครั้งที่เข้ามาลาดตระเวนบริเวณนี้มักจะเจอกับเสือดำคู่หนึ่งตลอด 

          คุณอนุวงค์ เผยอีกว่า ในที่เกิดเหตุยังพบหม้อต้มยำ และพบหางเสือดำในหม้อนั้นด้วย ลักษณะคล้ายซุปหางวัว โดยจากการตรวจสอบพบว่ากลุ่มผู้ต้องหามีความเป็นมืออาชีพมาก เหมือนเป็นพรานจริง ๆ สังเกตได้จากการแร่หนังของเสือดำอย่างประณีต ไม่มีรอยขาด ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ก็เป็นอาวุธหนักสำหรับใช้ล่าสัตว์ใหญ่อย่าง ช้าง เสือ เก้ง กวาง เป็นต้น

          ด้าน นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เผยว่า นายเปรมชัย ทำเรื่องขอเข้าไปยังหน่วยพิทักษ์ป่ามหาราช ซึ่งอยู่ห่างจากจุดที่พบตั้งแคมป์ประมาณ 7 กิโลเมตร แต่เจ้าตัวไม่ได้ไปตามที่ขอไว้ กลับมาตั้งเต็นท์ในจุดหวงห้าม ส่วนเรื่องหนังสือขออนุญาตเข้าพื้นที่นั้น ทราบว่า ทางหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ได้รับการประสานมาว่า จะมีผู้เข้าพื้นที่ จึงมีการทำหนังสือขออนุญาต แต่ติดวันเสาร์-อาทิตย์ เอกสารจึงไม่สมบูรณ์ แต่ทางเจ้าหน้าที่เห็นว่า หัวหน้าประสานขออนุญาตมาแล้ว จึงเปิดทางให้ เพราะที่ผ่านมานักท่องเที่ยวก็ไม่เคยสร้างปัญหาอะไร อย่างไรก็ดียอมรับว่าเรื่องที่เกิดขึ้น เป็นความหละหลวมของเจ้าหน้าที่